เป้าหมายหลัก

เป้าหเป้าหมาย: เพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะการสื่อสาร เข้าใจถึงความแตกต่าง วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา สามารถฟังคำศัพท์ ประโยค เรื่องราว บทสนทนา จากนิทาน ละคร เพลง ภาพยนต์ จับใจความสำคัญ ตอบคำถาม โดยให้เหตุผล รวมทั้งสามารถถ่ายทอดสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจได้ รวมทั้งสามารถใช้ภาษา เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้สู่สังคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์
การจัดการเรียนรู้โดยใช้วรรณกรรม: เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้การใช้ภาษาจริง จากการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลแวดล้อม และการเรียนรู้ผ่านวรรณกรรม เป็นการจำลองชีวิตจริง มีความงดงาม ทั้งวิถีชีวิตและการใช้ทักษะทางภาษา อีกทั้งจรรโลงใจให้ใคร่ครวญ

week3

แผนจัดการการเรียนรู้สาระวิชาภาษาอังกฤษ 
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2557 Quarter 2 
สัปดาห์ที่ 3 ระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคม 2557

1.ขั้นสนทนา (15 นาที):
- ครูถามคำถามง่ายๆ ที่เกี่ยวกับตัวนักเรียน (รูปแบบคำถามเพื่อทักทาย หรือถามสารทุกข์สุขดิบ) เช่น
- What time do you get up?
- What do you have for breakfast?
- How do you feel today?
- How do you go to school?
-How are you? How do you do? What’s up?
- ครูถามคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือหัวเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตัวนักเรียน เช่น
- What do you think about ……?
เมื่อนักเรียนคุ้นเคยกับคำถามดีแล้ว ต่อไปแบ่งกลุ่มนักเรียนเป็นผู้รับผิดชอบ หาคำถามหรือข่าวมาเล่า ถามให้เพื่อนๆ
วันจันทร์
วันอังคาร
วันพุธ
วันพฤหัสบดี
2.ขั้นสอน (30 นาที):
- เรียนรู้เรื่อง Time and date, Meals
- เรียนรู้เรื่อง Present Simple
- ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียน
  • ครูให้นักเรียนดูคลิปเรื่องอาหาร
  • ครูใช้คำถาม What time do you have breakfast/lunch/dinner? เชื่อมโยงกับเรื่องเวลา
  • ครูอธิบายการใช้คำถาม-ตอบ ประโยคคำถาม What time do you ……?
  • ครูให้นักเรียนจับคู่ และนำคำจากใบงาน Word search เรื่อง Daily routine มาสนทนาแลกเปลี่ยนกัน
  • ครูให้นักเรียนเขียนประโยคคำถาม-ตอบจากการที่ได้จับคู่สนทนา
  •  รูชี้ให้เด็กสังเกตโครงสร้างของ Present Simple

- Flipped Classroom: ให้นักเรียนทำชิ้นงานเรื่อง Time and date, Meals

2.ขั้นสอน (30 นาที):
- Flipped Classroom: อภิปรายแลกเปลี่ยนจากชิ้นงานที่ได้ทำมา
- เรียนรู้เรื่อง Time and date, Meals (ต่อ)
- เรียนรู้เรื่อง Present Simple (ต่อ)
- ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียน
  • ครูเปิดรูปหรือนำนาฬิกาแปลกๆ ให้เด็กดู และจบด้วยประโยค What time is it?
  • ครูอธิบายเรื่องการบอกเวลา (Ex. It’s 8 o’clock. It’s time to go to bed.) และการใช้คำถาม What time is it?
  • ครูทดสอบนักเรียนโดยใช้แขนแทนเข็มนาฬิกา แล้วให้นักเรียนทายเวลา
  • ครูกระตุ้นให้นักเรียนทบทวนเรื่องวันเกิด (เรียนมาแล้ว) เพื่อเชื่อมโยงกับเรื่อง date
  • ครูอธิบายเรื่อง date
  • ครูชี้ให้เด็กสังเกตโครงสร้างของ Present Simple

- Flipped Classroom: ให้นักเรียนทำชิ้นงานเรื่อง Time and date, Meals
  • ครูให้นักเรียนไปทบทวนเรื่อง Time and date, Meals; and Present Simple


2.ขั้นสอน (30 นาที):
- Flipped Classroom: อภิปรายแลกเปลี่ยนจากชิ้นงานที่ได้ทำมา
- ทำกิจกรรม (เพลง หนัง เกม การ์ตูนช่อง นิทาน การแสดงละคร บทบาทสมมติ ฯลฯ)
  •             เรียนรู้เรื่อง Phonics และเล่นเกมเพื่อวัดระดับความเข้าใจ
- Flipped Classroom: ให้นักเรียนออกแบบชิ้นงานหรือกิจกรรมสร้างสรรค์

2.ขั้นสอน (30 นาที):
- อ่านบทความ/นิตยสาร/หนังสือพิมพ์/เรื่องสั้น/เพลง
  • อ่านหนังสือเรื่อง Oranges in the Snow
  • ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนตามตัวเลือก และให้นักเรียนเรียนรู้ร่วมกัน

- ใช้รูปแบบ:
  • อ่านให้ฟัง
  • อ่านตาม
  • อ่านพร้อมกันให้ครูฟัง
  • ช่วยกันแปล
  • ตั้งคำถาม (5W1H)
  • อ่านทบทวน

- Flipped Classroom: ให้นักเรียนทำชิ้นงานเรื่อง Our hometown
3.ขั้นสรุป(5 นาที):
- ครูถามนักเรียนว่าได้เรียนรู้อะไร และจะนำไปใช้อย่างไร
- What have you learned today?
- How do you apply/use what you have learned?

1 ความคิดเห็น:

  1. สัปดาห์นี้ หัวข้อใหญ่ที่จะสอนคือเรื่องเวลา ในวันจันทร์ บรรยากาศในห้องเรียนเป็นไปด้วยดี การสอนเป็นไปตามแผนการสอนที่วางไว้ การสอนเรื่องการใช้ประโยคคำถาม What time do you…..? เชื่อมโยงกับคำศัพท์เรื่อง Routine ที่พี่ๆ ม.1 ได้เรียนและทำกิจกรรมไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เรื่อง Present Simple ไม่ได้แทรกลงมา เพราะเวลามีไม่พอ
    วันอังคาร มีการลงลึกเรื่องรายละเอียดเรื่องการบอกเวลามากขึ้น คุณครูมีการปรับแผนการสอน โดยนำส่วนเปิดรูปนาฬิกาแปลกๆ ออก เปลี่ยนมาให้พี่ม.1 ดูคลิปอธิบายการบอกเวลาจากเจ้าของภาษา (big hand, small hand, …O’ clock, quarter past/to……) เพื่อฝึกทักษะการฟัง ทำให้เด็กๆ พบปัญหา คือ เด็กๆ รู้สึกว่าในคลิปพูดเร็ว ฟังยาก คุณครูแก้ปัญหาโดยการอธิบายเพิ่มเติม วันนี้ไม่ได้ทบทวนเรื่อง date เพราะเวลาไม่เพียงพอ และเพื่อเป็นการทบทวน วันนี้คุณครูให้โจทย์โดยเขียนเวลาเป็นตัวเลข และให้เด็กๆ ลองกลับไปเขียนเป็นภาษาพูด เช่น 4:15 เท่ากับ It’s quarter past four และอีกหนึ่งชิ้นงาน คุณครูแจกกระดาษให้เด็กๆ ใช้จินตนาการของตัวเอง ออกแบบรูปนาฬิกาพร้อมเข็มชี้บอกเวลา ซึ่งคุณครูวางแผนจะนำมาทบทวนในวันถัดไป
    วันพุธ ได้สลับแผนการสอนกับวันพฤหัสบดี เปลี่ยนเป็นการอ่าน ส่วนวันสุดท้าย วันพฤหัสบดี หลังจากได้ตรวจการบ้านที่ให้เด็กๆ เขียนบอกเวลาเป็นภาษาพูด เด็กๆ ผิดค่อนข้างเยอะในจุดที่ไม่น่าผิด และการบ้านของบางคนดูไม่ค่อยใส่ใจกับการทำมา จึงอยากปรับทัศนคติเด็กๆ ไม่ใช่แค่เรียนรู้เรื่องการถาม การบอกเวลาได้ แต่อยากให้เด็กๆ ตระหนักและเห็นคุณค่าของเวลามากขึ้น จึงจัดกิจกรรมโดยมีการเปิดเพลง อ่านบทความ และเล่าเรื่อง เพื่อให้เด็กๆ เห็นความสำคัญของเวลามากขึ้น

    ตอบลบ